ลู่วิ่ง กับการใช้ให้ถูกวิธีเพื่อไม่ให้เกิดอันตราย

การออกกำลังกายด้วยลู่วิ่ง เป็นตัวเลือกที่ดีมากไม่ว่าเป้าหมายของคุณคือการออกกำงกายเพื่อสุขภาพี่ดีขึ้น เสริมกล้ามเนื้อ หรือการลดน้ำหนัก โดยที่เราไม่ต้องสนใจสภาพอากาศ ลู่วิ่งสามารถตอบโจทย์ในข้อนี้ได้ เราสามารถที่จะออกกำลังกายในที่ร่มโดยที่ไม่ต้องออกไปข้างนอก ลู่วิ่งไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ฟิตเนส หรือยิมควรจะมี และทุกคนที่เคยไปฟิตเนสน่าจะเคยเล่นกันมาบ้าง แต่ค่อนข้างจะแน่ใจว่าใน 10 คนที่เคยใช้ จะต้องมีบางคนที่ใช้ลู่วิ่งอย่างไม่ถูกต้องแน่ๆ หากใช้ลู่วิ่งไม่ถูกต้อง อาจส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บระหว่างวิ่ง หรืออาจทำให้การวิ่งในครั้งนั้นไม่ได้ผลต่อร่างกายก็ได้

วิธีใช้ลู่วิ่งอย่างถูกวิธี

1. ก่อนเปิดเครื่องเริ่มวิ่ง ควรอบอุ่นร่างกายด้วยการทำท่าบริหาร ยืดเส้นยืดสาย คลายกล้ามเนื้อให้ทั่วร่างกายเป็นเวลา 5-10 นาที ก่อนเริ่มต้นวิ่ง
2. หากใช้ลู่วิ่งที่สามารถตั้งโปรแกรมอัตโนมัติโดยใส่ข้อมูลส่วนตัว เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง ฯลฯ ลงไปได้ ก็ควรใส่ก่อนเริ่มต้นวิ่งให้เรียบร้อย
3. ไม่ควรเปิดทีวี เปิดแท็บเล็ต หรือมือถือดูหนัง ละคร คลิปวิดีโอต่างๆ เพราะอาจทำให้เราเกร็งกล้ามเนื้อบางส่วน โดยเฉพาะคอ ไหล่ หรือต้นแขนขณะวิ่ง ทำให้การวิ่งของเราไม่ได้ใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนอย่างที่ควรจะเป็น แต่หากอยากชมวิดีโอขณะวิ่งจริงๆ ควรตั้งจอทีวีให้อยู่ตรงหน้าลู่วิ่ง โดยที่เราไม่ต้องก้มหน้า หรือชะเง้อมองจอจากด้านข้างจะดีกว่า หรือเปลี่ยนเป็นฟังเพลงก็ไม่เลวนะ
4. การวิ่งที่เป็นธรรมชาติ คือการวิ่งที่ให้ผลลัพธ์ต่อร่างกายได้ดีที่สุด ดังนั้นควรวิ่งบนลู่วิ่งโดยเสมือนว่าลู่วิ่งคือทางบนถนนที่วิ่งปกติ ดังนั้นเมื่อวิ่งได้จังหวะที่สม่ำเสมอแล้ว ควรเอามือออกจากราวจับ ไม่ควรวิ่งไปจับราววิ่งไปด้วย เพราะอาจทำให้เราเสียจังหวะในการวิ่ง วิ่งได้ไม่เป็นธรรมชาติ และไม่ได้ขยับกล้ามเนื้อที่แขนมากเท่าที่ควร
5. ไม่จำเป็นต้องโฟกัสที่ตัวเลขบนเครื่องมากเกินไป โดยเฉพาะตัวเลขจำนวนพลังงานที่เผาผลาญได้จากการวิ่งในครั้งนั้นๆ เพราะพลังงานเป็นแคลอรี่ที่โชว์อยู่บนเครื่อง เป็นตัวเลขที่เครื่องทำการคำนวณให้คร่าวๆ เท่านั้น ควรใส่ใจกับเวลา และความเร็วที่ใช้ในการวิ่งจะดีกว่า

ลู่วิ่งไฟฟ้าอุปกรณ์การออกกำลังกาย ฟิตเนส ที่คนส่วนใหญ่นิยมใช้

6. ควรเดินในความเร็วปกติเพื่ออบอุ่นร่างกายก่อนเริ่มวิ่งจริงๆ ราว 5 นาที แล้วค่อยๆ ปรับความเร็วในการวิ่งเพิ่มมากขึ้นอย่างช้าๆ เมื่อเริ่มวิ่งไปได้ราว 15 นาที สามารถเพิ่มระดับความเร็วได้เรื่อยๆ จนถึงระดับที่วิ่งแล้วเหนื่อยหอบ แต่ยังพอพูดได้เป็นคำๆ เมื่อถึงจุดนั้นให้หยุดการเพิ่มความเร็ว แล้ววิ่งในระดับความเร็วนั้นไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเริ่มไม่ไหว จึงค่อยๆ ลดความเร็วลงมาจนถึงจุดที่เดินได้ หากยังพอไหวเมื่อเดินจนหายเหนื่อย ก็ค่อยๆ เร่งความเร็วเพื่อวิ่งต่อได้
7. ควรวิ่งสลับเดินไปเรื่อยๆ ติดต่อกันอย่างน้อย 30 นาที
8. ระวังอย่าปรับความเร็ว และความความชันของลู่วิ่งมากจนเกินไป เพราะการวิ่งเกิดขีดจำกัดของตัวเองไม่ได้เป็นผลดีต่อร่างกายเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังทำให้ร่างกายทำงานหนักจนเกินไป ส่งผลให้เกิดอาการบาดเจ็บ และอาจอันตรายต่อสะดุดล้มบนลู่งวิ่งได้ โดยเฉพาะใครที่โรคประจำตัวที่เกี่ยวกับหัวใจ อาจอันตรายถึงชีวิตอีกด้วย
9. เมื่อใช้ลู่วิ่งไปได้สักระยะ อย่าวิ่งด้วยโปรแกรมเดิมๆ ซ้ำๆ หากตั้งค่าด้วยโปรแกรมอัตโนมัติเป็นประจำ วิ่งในระยะเวลา หรือความเร็วซ้ำๆ เดิม ควรเปลี่ยนด้วยการเพิ่มความเร็ว เพิ่มระยะทาง หรือวิ่งสลับเดินในเวลาที่แตกต่างกันดูบ้าง เพื่อไม่ให้ร่างกายเคยชินกับการออกกำลังกายซ้ำแบบเดิมๆ และเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้ออย่างช้าๆ
10. อย่าลืมคูลดาวน์หลังวิ่งเสร็จด้วยการลดระดับความเร็วจากการวิ่งมาเป็นเดินราวๆ 10 นาที หลังวิ่งสามารถนั่งพัก จิบน้ำได้ และสามารถเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ของร่างกายเพิ่มได้ด้วยการเล่นเวทต่อ แต่ถ้าหากเหนื่อยล้ามากจนไม่ไหวแล้ว ก็ควรพักให้หายเหนื่อย แล้วค่อยเล่นเวทวันอื่นได้

การวิ่งบนลู่วิ่ง คือการใช้ลู่วิ่งให้ใกล้เคียงกับการวิ่งบนทางปกติให้มากที่สุด อย่าเพิ่งพาเทคโนโลยีบนลู่งวิ่งมากจนเกินไป ปรับระดับความเร็ว และความชันของลู่วิ่งให้เหมาะสมกับร่างกายของตนเอง เท่านี้ก็จะใช้ลู่วิ่งเพื่อการออกกำลังกาย หรือเพื่อการลดน้ำหนักได้อย่างถูกวิธี และเห็นผลดั่งใจได้แน่นอน

ออกกำลังกายที่ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อได้ทุกส่วน ช่วยเผาผลาญแคลอรีได้เป็นอย่างดี การออกกำลังกายด้วยลู่วิ่งไฟฟ้า ยังเป็นการช่วยประหยัดเวลาที่ท่านจะต้องออกไปวิ่งข้างนอก เสี่ยงกับอันตราย แค่มีลู่วิ่งในบ้านก็เหมือนมีฟิตเนสส่วนตัวที่สามารถฟิตแอนด์เฟิร์มได้ตลอดเวลา

ลู่วิ่งไฟฟ้าเพื่อสุขภาพหรือเพื่อการลดน้ำหนัก

ลู่วิ่งไฟฟ้าออกกำลังกายเป็นเครื่องออกกำลังกายอันดับแรกที่ใครๆมักจะนึกถึง เพราะความสะดวก ใช้งานง่าย แถมเดินบนลู่วิ่งจะช่วยเบิร์นไขมันทั้งตัว สามารถเผาผลาญแคลอรีได้ง่ายๆ หากผู้เล่นออกกำลังกายประจำวันช่วยเพิ่มสมรรถภาพของปอดและหัวใจแข็งแรงอีกด้วย สำหรับผู้เล่นที่ต้องการวิ่งลู่วิ่งภายในบ้าน 1-2 คน ราคาถูก คุณภาพดี ใช้งานง่าย พับเก็บได้ ใช้พื้นที่น้อย

ลู่วิ่งไฟฟ้าสามารถปรับความเร็วได้ แน่นอนว่าการวิ่งเราอาจจะต้องมีวิ่งช้าวิ่งเร็ว วิ่งเลี้ยวไปตามทาง อาจจะมีเหนื่อยๆ ก็หยุดพักงี้ แต่สำหรับลู่วิ่งไฟฟ้าที่สามารถปรับความเร็วได้นั้น มันทำให้เรารู้สึกมีเป้าหมายว่าฉันจะต้องวิ่งด้วยความเร็วเท่านี้ให้ได้ ถึงเหนื่อยก็สามารถผ่อนความเร็วได้ ปรับระดับความชันของลู่วิ่ง ก็เหมือนถ้าเราอยากจะวิ่งขึ้นเขา เราก็แค่ปรับความชันเท่านั้นเอง ทั้งง่าย สะดวก และรวดเร็ว

โปรแกรมจะช่วยวางแผนการวิ่งให้คุณอย่างถูกต้อง เริ่มจากการอุ่นเครื่องช้าๆ เพิ่มความเร็ว ปรับความลาดชัน จนถึงขั้นคูลดาวน์ ที่เหมาะสมสำหรับตัวคุณ ร่างกายมนุษย์เป็นเครื่องจักรที่มีความฉลาดจะปรับตัวกับสภาพที่เปลี่ยนไปของร่างกาย เราควรปรับเปลี่ยนโปรแกรมให้ยากขึ้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการออกกำลังกายมากขึ้น

การออกกำลังกายด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าเรียกได้ว่าเป็นเครื่องออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพหรือการลดน้ำหนัก ก่อนที่จะเริ่มวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าแนะนำให้ยืดเส้น ยืดกล้ามเนื้อกันเสียก่อนประมาณ 5-10 นาที เพื่อที่จะเตรียมร่างกายและกล้ามเนื้อให้พร้อมก่อนการวิ่ง ลดการเกิดอุบัติเหตุและอาการบาดเจ็บระหว่างการออกกำลังกาย และลดอาการปวดเมื่อยหลังจากการออกกำลังกาย

ระยะเวลาในการวิ่งบนลู่วิ่งไฟฟ้าที่เหมาะสมสำหรับมือใหม่จะอยู่ที่ประมาณ 20-45 นาที เริ่มต้นด้วยการเดินช้าๆ เดินเร็ว และจึงค่อยเร่งสปีดความเร็วขึ้นตามลำดับ โดยความเร็วในการวิ่งก็ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของเราจะสามารถรับได้ในระดับไหน สำหรับผู้เริ่มต้นที่ไม่เคยออกกำลังกายด้วยการวิ่งมาก่อน ไม่ควรปรับความเร็วเสียจนหายใจหอบถี่ หรือหายใจไม่ทัน ควรปรับระดับความเร็วแบบพอดี ที่เราสามารถวิ่งและหายใจได้อย่างสม่ำเสมอเป็นจังหวะ