บัตรเครดิต จับจ่ายสบายง่าย แต่มันคือภาระในอนาคต

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเงินพลาสติกนี้จะมีบทบาทสูงต่อการจับจ่ายในชีวิตประจำวันของคุณพ่อคุณแม่ค่อนข้างสูง แต่ที่ผ่านมาการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตโดยปราศจากการวางแผนการเงินที่ดี ผลกระทบต่อสถาบันครอบครัวย่อมเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะผู้ที่ลืมตัวคิดว่าบัตรเครดิตนี้เป็นเพื่อนแท้ที่สามารถหยิบยื่นความสุขต่างๆ ให้กับตนเองได้ตลอดเวลา และไม่ได้คิดว่าทุกครั้งที่มีการใช้จ่ายผ่านบัตรดังกล่าวเป็นการนำเอาเงินในอนาคตมาใช้

แม้ว่าในทางเศรษฐศาสตร์เชื่อว่าการนำเอาเงินในอนาคตมาใช้นั้น จะทำให้ระบบเศรษฐกิจของประเทศมีการเคลื่อนไหวในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ถ้าคนส่วนใหญ่ใช้เงินล่วงหน้าอย่างขาดสติ และไม่มีความสมดุลระหว่างรายรับกับรายจ่าย สิ่งที่จะตามมาก็คือ ความตกต่ำทางด้านการเงินของผู้ใช้บัตรเครดิตที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ

ทั้งนี้ทุกๆ ครอบครัวคงทราบดีว่าการพึ่งพาบัตรเครดิตเป็นการเพิ่มความสะดวกสบายในการจับจ่ายโดยไม่ต้องพกเงินสดครั้งละมากๆ หรือถ้าเงินขาดมือก็สามารถเบิกเงินสดล่วงหน้าได้ตามความต้องการ จึงเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะทำให้เกิดหนี้เสีย หากผู้ใช้ไม่คำนึงถึงรายได้ที่แท้จริงของตนเอง ซึ่งแตกต่างจากวงเงินสินเชื่อของบัตรเครดิตที่สูงกว่าเงินเดือนหลายเท่า ทำให้ผู้ถือบัตรมีความรู้สึกที่ว่าตนเองมีเงินสำรองสำหรับใช้จ่ายอยู่ตลอดเวลา อาจทำให้หลายคนใช้จ่ายจนเกินตัวได้ง่ายๆ

นอกจากนี้รายชื่อของผู้ใช้บัตรเครดิตยังเป็นฐานข้อมูลที่ดีสำหรับการขายสินค้าของนักการตลาด สินค้าและบริการต่างๆ จะถูกส่งตรงมาเป็นกิเลสที่ล่อตาล่อใจให้เกิดการตัดสินใจซื้อ ทั้งๆ ที่บางครั้งก็เป็นสินค้าและบริการที่ไม่จำเป็นและไม่ได้สร้างประโยชน์ที่แท้จริงให้กับครอบครัว หากไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจก็อาจทำให้คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่ถือบัตรเครดิตต้องเสียเครดิตในไม่ช้า ดังนั้นผู้ถือบัตรทุกคนจะต้องรู้จักตัวเองเป็นอย่างดีว่า ค่าใช้จ่ายและระบบเศรษฐกิจในครอบครัวเป็นอย่างไร โดยเฉพาะความสามารถในการจ่ายคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยนั้นมีศักยภาพมากน้อยแค่ไหน

เพราะในอดีตที่ผ่านมาระบบการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตได้พ่นพิษให้กับคนจำนวนไม่น้อยมาแล้ว จนกระทั่งธนาคารแห่งประเทศไทยต้องออกกฎเหล็กมาควบคุม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ดิฉันคิดว่าหากคุณไม่สามารถควบคุมการใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อแล้ว อนาคตของผู้ถือบัตรก็จะต้องเป็นหนี้หัวโตอย่างแน่นอน